top of page

Robot Jacket เหมาะกับหุ่นยนต์แบบไหนบ้าง? เลือกใช้งานยังไงให้ตรงประเภท

  • รูปภาพนักเขียน: ma wxs
    ma wxs
  • 2 วันที่ผ่านมา
  • ยาว 1 นาที

ในระบบโรงงานสมัยใหม่ หุ่นยนต์อุตสาหกรรมกลายเป็นเครื่องมือหลักที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ไม่ว่าจะเป็นสายประกอบอัตโนมัติ งานเชื่อมโลหะ การพ่นสี หรือแม้กระทั่งงานที่ต้องควบคุมความสะอาดระดับสูง แต่หุ่นยนต์ก็เหมือนเครื่องมือทุกชนิดที่ต้องการการดูแล โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยฝุ่น น้ำมัน หรือไอน้ำ ทำให้หลายคนอาจสงสัยว่า Robot Jacket เหมาะกับหุ่นยนต์ประเภทไหนบ้าง? และจะเลือกใช้อย่างไรให้ตรงกับลักษณะงานและประเภทของหุ่นยนต์ บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจเรื่องเหล่านี้แบบชัดเจนขึ้น

เข้าใจพื้นฐานของ Robot Jacket ก่อนเลือกใช้งาน

ก่อนจะไปถึงเรื่องการเลือกใช้ให้ตรงประเภท ต้องเข้าใจก่อนว่า Robot Jacket คืออะไร และมีหน้าที่อะไรบ้าง ซึ่งจริง ๆ แล้วมันก็คือ “ชุดคลุม” ที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันหุ่นยนต์จากปัจจัยภายนอก เช่น ฝุ่น เศษวัสดุละอองน้ำมัน ความชื้น หรือสารเคมีต่าง ๆ ที่มักเกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการผลิต

ข้อดีของ Robot Jacket คือช่วยให้หุ่นยนต์ทำงานได้อย่างเสถียร ไม่เกิดคราบสกปรก ไม่สะสมฝุ่นที่อาจเข้าไปทำลายกลไกหรือระบบเซนเซอร์ นอกจากนี้ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาระยะยาวอีกด้วย

หุ่นยนต์ประเภทไหนที่ควรใช้ Robot Jacket?

การจะเลือกใช้ Robot Jacket ให้เหมาะกับหุ่นยนต์ ต้องพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น ประเภทของหุ่นยนต์ ลักษณะการทำงาน และสภาพแวดล้อมของไลน์ผลิต ซึ่งหุ่นยนต์ที่มักพบในอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ มีดังนี้:

  1. หุ่นยนต์แขนกล (Articulated Robot)

ตัวอย่างเช่น UR, KUKA, FANUC, YASKAWAเป็นหุ่นยนต์ที่ใช้กันแพร่หลายในโรงงาน เพราะมีความยืดหยุ่นสูง สามารถหมุนและเคลื่อนที่ได้หลายทิศทาง เหมาะกับงานประกอบ เชื่อม พ่นสี หรือหยิบจับชิ้นงาน ซึ่งในงานลักษณะนี้มักมีละอองน้ำมันหรือสะเก็ดไฟ Robot Jacket ที่ใช้จึงต้องทนความร้อน ทนสารเคมี และออกแบบให้คลุมได้ทุกข้อพับโดยไม่รบกวนการเคลื่อนไหว

  1. หุ่นยนต์แบบ SCARA

เช่น Dobot หรือ ABB รุ่นเล็กบางรุ่นเหมาะกับงานหยิบจับที่ต้องการความเร็วสูง และความแม่นยำ เช่น งานในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์หรือแพ็กเกจจิ้ง ซึ่งมักอยู่ในสภาพแวดล้อมสะอาด Robot Jacket ที่ใช้กับ SCARA จึงเน้นวัสดุที่บางเบา ไม่เกะกะการทำงาน และควบคุมสิ่งปนเปื้อนเป็นหลัก

  1. หุ่นยนต์สำหรับงานคลีนรูม

เหมาะกับอุตสาหกรรมยา อาหาร เครื่องสำอาง หรือเซมิคอนดักเตอร์ในงานแบบนี้ไม่ใช่แค่ป้องกันฝุ่นจากภายนอกเท่านั้น แต่ยังต้องกันไม่ให้หุ่นยนต์ปล่อยสิ่งปนเปื้อนออกมาด้วย เช่น เส้นใยหรือผงจากการเสียดสี Robot Jacket ที่ใช้จะเป็นแบบ Cleanroom Grade มีการซีลรอบขอบตะเข็บ และผ่านมาตรฐานความสะอาดระดับสูง

เลือกใช้งานอย่างไรให้คุ้มค่าและตรงจุด

  • ตรวจสอบสภาพแวดล้อมการทำงานของหุ่นยนต์ก่อนเลือกวัสดุ

    เช่น หากมีน้ำมัน ใช้วัสดุป้องกันน้ำมัน ถ้ามีความร้อน ให้เลือกวัสดุที่ทนความร้อน

  • เลือกแบบที่ออกแบบเฉพาะรุ่น

    ไม่ควรใช้ Robot Jacket แบบฟรีไซส์ เพราะอาจรบกวนการทำงานของแขนกล หรือหลุดง่าย

  • คำนึงถึงการถอด-ใส่ง่าย เพื่อให้สะดวกต่อการบำรุงรักษาหุ่นยนต์

  • หากหุ่นยนต์มีการเคลื่อนที่เร็ว ควรใช้วัสดุที่ยืดหยุ่นสูง เพื่อไม่ให้ขัดจังหวะการทำงาน

Robot Jacket อาจดูเหมือนเป็นอุปกรณ์เสริม แต่ในความจริงแล้ว มันคือการลงทุนที่ช่วยรักษาคุณภาพของเครื่องจักรและไลน์ผลิตให้ยืนระยะได้นานขึ้น ยิ่งหุ่นยนต์ตัวไหนมีราคาสูงหรือทำงานอยู่ในจุดสำคัญของการผลิต การป้องกันตั้งแต่ต้นด้วย Jacket ที่เหมาะสม ก็ยิ่งช่วยลดความเสี่ยงที่ไม่จำเป็นได้มากขึ้นเท่านั้น

 
 
 

Comments


bottom of page